
การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทุกวินาที ดังนั้นการมีกล้องติดหมวกกันน็อกจะช่วยให้การขับขี่นั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เวลาเกิดอุบัติเหตุการเฉี่ยวชนจะมีหลักฐานในการยื่นเอาผิดต่อคู่กรณีได้ คุณภาพของกล้องก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องใส่ใจ วันนี้พามาส่อง 7 กล้องติดหมวกกันน็อกน่าใช้ปี 2025 มาดูกันว่ารุ่นไหนน่าใช้รุ่นไหนน่าลองบ้าง ไปดูกันเลย!
วิธีเลือกกล้องติดหมวกกันน็อก
สำหรับวิธีการเลือกซื้อกล้องติดหมวกกันน็อกที่ดีที่สุดนั้นมีเทคนิคในการเลือกซื้อคือ
- ความละเอียดในการบันทึกวิดีโอ
- ความจุวิดีโอสูงสุดที่สามารถบันทึกได้
- ลักษณะการติดตั้งกล้องบนหมวก
- ความจุของแบตเตอรี่
- ราคาของกล้องติดหมวกกันน็อก
รวมกล้องติดหมวกกันน็อก 2025
สำหรับกล้องติดหมวกกันน็อกน่าใช้ปี 2025 คือ
1. กล้องติดหมวกกันน็อก Nanotech N673 T
กล้องติดหมวกกันน็อกที่ใช้เลนส์มุมกว้าง 170 องศา บันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยความชัดระดับ 4K เฟรมเรต 60 FPS ภาพนิ่งสูงสุด 20 ล้านพิกเซล หน้าจอในตัวขนาด 2 นิ้ว กล้องกันน้ำลึก 30 เมตร รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มีช่อง HDR ไอไมโครยูเอสบี 2.0 แบตเตอรี่ขนาดความจุ 1050 mAh ราคาประมาณ 3,500 บาท
2. กล้องติดหมวกกันน็อก Proof PF450 MAX
กล้องติดหมวกกันน็อก Proof PF450 MAX ตัวนี้ ใช้เลนส์มุมกว้าง 170 องศา บันทึกภาพเคลื่อนไหวความชัดระดับ 4K เฟรมเรต 30 FPS ภาพนิ่ง 12 ล้านพิกเซล หน้าจอดูภาพในตัวขนาด 2 นิ้ว ตัวกล้องกันน้ำลึก 10 เมตร แต่ถ้ามีการใส่เคสจะกันน้ำลึกได้ถึง 60 เมตร รองรับการเชื่อมต่อ HDMI ต่อออกโทรทัศน์ได้ แบตเตอรี่ขนาดความจุ 1,100 mAh ราคาประมาณ 4,900 บาท
3. กล้องติดหมวกกันน็อก Caddx Walnut
Caddx Walnut มีขนาดเล็กมาก น้ำหนักเพียง 62.8 กรัม เลนส์มุมกว้าง 150 องศา บันทึกภาพเคลื่อนไหวความชัดระดับ 4K เฟรมเรต 60 FPS ตัวกล้องกันน้ำ กันสั่น แบตเตอรี่ขนาดความจุเพียง 600 mAh ใช้งานได้สูงสุด 30 นาที (ที่ความละเอียด 4K/60 FPS) ราคาประมาณ 5,500 บาท

4. กล้องติดหมวกกันน็อก GoPro Hero 11 Black
กล้องติดหมวกกันน็อกตัวนี้ใช้เลนส์มุมกว้าง 170 องศา บันทึกภาพเคลื่อนไหวความชัดระดับ 5.3K เฟรมเรต 60 FPS ภาพนิ่ง 27 ล้านพิกเซล มีจอภาพด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว ด้านหลังขนาด 2.27 นิ้ว ตัวกล้องกันน้ำ เลนส์กันน้ำเกาะ ถ่ายได้ชัดแม้กล้องเปียก แบตเตอรี่ขนาดความจุ 1,720 mAh ราคาประมาณ 15,000 บาท
5. กล้องติดหมวกกันน็อก DJI Osmo Action
กล้องติดหมวกกันน็อกตัวนี้มีดีไซน์สวยทันสมัย ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ตัวเครื่องมีความแข็งแรงสามารถทนอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง -10 องศาเซลเซียล กันน้ำได้ลึกถึง 11 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคสกันน้ำ ส่วนหน้าจอทัชสกีนได้ จอด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว และด้านหลัง 2.25 นิ้ว หน้าจอสามารถปรับหมุนแนวตั้งและแนวนอนได้อิสระ บันทึกวิดีโอคมชัดในระดับ 4K ที่ 60 FPS ระบบกันสั่น RockSteady มี Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว ราคาประมาณ 16,900 บาท
6. กล้องติดหมวกกันน็อก SJCAM SJ8 Pro
ความละเอียดระดับ 4K 60 FPS ใช้งานการถ่ายภาพจากกล้องหลักที่มีความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอได้อย่างยาวนาน ความจุของการ์ด Micro SD สูงสุดที่ทำได้ในช่วงประมาณ 128 GB และแบตเตอรี่ภายในที่ให้มาขนาดความจุช่วงประมาณ 1,200 mAh ส่วนในเรื่องของมุมมองในการบันทึกวิดีโอนั้น จะทำได้สูงสุดที่ 160 องศาในแนวนอน กล้องติดหมวกกันน็อกตัวนี้ราคาประมาณ 8,200 บาท
7. กล้องติดหมวกกันน็อก EKEN H6S 4K Action Camera
กล้องติดหมวกกันน็อกที่มีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 14 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดในระดับ 4K ความสามารถในการรองรับ Micro SD Card ที่ทำได้สูงสุดในระดับ 64 GB บันทึกสิ่งต่าง ๆ บริเวณด้านหน้าได้ในมุมมองมากถึง 170 องศา แถมรีโมทสำหรับการควบคุมสิ่งต่าง ๆ ช่วยให้สามารถใช้งานตัวอุปกรณ์ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ราคาประมาณ 2,790 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับกล้องติดหมวกกันน็อกที่เอามาฝากกันในวันนี้ แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันและยังมีราคาที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นใครสะดวกแบบไหน เหมาะกับการใช้งานแบบไหน สามารถเลือกซื้อกันได้เลย และฝากกันเอาไว้สำหรับใครที่สนใจ ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รีไฟแนนซ์รถมอเตอร์ไซค์ สำหรับลูกค้าเก่า สามารถเข้ามาปรึกษาเราได้ที่ TLeasing เรายินดีให้คำปรึกษาอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รับรองไม่ผิดหวัง